สรุปเร็ว: “ร้าง” คือสถานะแสดงว่า ไม่มีความเคลื่อนไหว/ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ไม่ยื่นงบการเงินหลายปี ติดต่อ DBD ไม่ได้ ฯลฯ ไม่ได้แปลว่า “ปลอดภาระ”.
ความหมายของ dbd สถานะร้าง
สถานะ “ร้าง” ในระบบ DBD หมายถึงนิติบุคคลยังมีชื่ออยู่ในทะเบียน แต่ไม่มีการดำเนินธุรกิจ หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ไม่ส่งงบการเงิน ไม่แจ้งเปลี่ยนข้อมูล หรือไม่ติดต่อกรมฯ เป็นเวลานาน
สาเหตุที่ถูกระบุเป็น “ร้าง”
- ไม่ส่งงบการเงินประจำปี ติดต่อกันหลายปี (หน้าที่ตาม พระราชบัญญัติบัญชี พ.ศ. 2543) หากขาดส่ง 3 ปี กรมฯ มักแสดงสถานะเป็น “ร้าง” พร้อมโทษปรับทั้งนิติบุคคลและกรรมการ/หุ้นส่วนผู้จัดการ
- ไม่ยื่นเอกสารเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ เช่น กรรมการ ที่ตั้ง ทุน (หน้าที่ตาม พระราชบัญญัติทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท พ.ศ. 2522)
- ไม่ยื่นแบบภาษีกับสรรพากร ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ใช้ประกอบการพิจารณาว่าไม่ทำธุรกิจจริง
- ไม่มีการติดต่อกับ DBD เลย กรมฯ จึงสันนิษฐานว่าหยุดดำเนินกิจการ
ผลกระทบเมื่อถูกระบุ “ร้าง”
- ความน่าเชื่อถือลดลง คู่ค้า/สถาบันการเงินไม่มั่นใจในการทำธุรกรรม
- โทษปรับตามกฎหมาย การไม่ยื่นงบการเงินมีโทษทั้งนิติบุคคลและผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี
- เสี่ยงถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน การขีดชื่อไม่ได้ล้างหนี้หรือค่าปรับย้อนหลัง
- ติดขัดงานเอกสาร กู้เงิน ออกหนังสือรับรอง ทำสัญญา ต่าง ๆ ลำบาก
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย: “ปล่อยให้ร้างแล้วไม่โดนปรับ”
ไม่จริง — การไม่ยื่นงบการเงินมีโทษปรับแน่นอน ทั้งในส่วนของนิติบุคคลและกรรมการ/หุ้นส่วนผู้จัดการ และการถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนก็ไม่ล้างค่าปรับหรือหนี้สินเดิม
วิธีแก้ไขหากถูกระบุเป็น “ร้าง”
- จัดทำและยื่นงบการเงินย้อนหลังให้ครบทุกปีที่ขาด
- ยื่นแบบภาษีค้าง (ภ.ง.ด.50, ภ.พ.30 ฯลฯ) ให้สอดคล้องกับงบการเงิน
- ติดต่อ DBD เพื่อตรวจสอบเอกสารที่ต้องยื่นเพิ่มเติม
- หากเลิกกิจการจริง ให้ดำเนินการเลิกและชำระบัญชีอย่างถูกต้อง เพื่อตัดหน้าที่ในอนาคต
สรุป
สถานะ “ร้าง” ไม่ใช่ทางลัดหลีกเลี่ยงกฎหมาย แต่เป็นสัญญาณเตือนให้รีบจัดทำเอกสารให้ครบถ้วน หากยังดำเนินกิจการอยู่ควรรื้อระบบบัญชีและภาษีให้เป็นปัจจุบัน หากไม่ดำเนินการต่อควรเลิกและชำระบัญชีอย่างถูกต้อง
บทความนี้จัดทำเพื่อการให้ความรู้ทั่วไป